(รีวิวศัลยกรรม) ส่องรัวๆ !!! 16 โอปป้าหล่อบอกต่อด้วย ศัลยกรรมผู้ชายแตกต่างอย่างไร มาดูกัน !!!

💗สวัสดีค่ะ💗

👯นานะมาแล้วนะคะ 💙

ศัลยกรรมผู้ชายเราอาจจะได้เห็นไม่มากเท่าศัลยกรรมผู้หญิง แต่ในความจริงแล้ว ในปัจจุบัน ผู้ชายมีความกังวลเรื่องหน้าตา

และต้องการทำศัลยกรรมในปริมาณพอๆกับผู้หญิงเลยนะคะ

ศัลยกรรม ในผู้ชาย พอพูดถึงประเด็นการทำ ศัลยกรรม คนส่วนใหญ่ก็มักจะนึกถึงการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเพศหญิงเท่านั้น แต่ความจริง ผู้ชาย อกสามศอกก็นิยมทำศัลยกรรมไม่แพ้กัน เพียงแค่อาจจะตัดเรื่องการเสริมหน้าอกออกไปเท่านั้นเอง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรที่เราอยากจะมีภาพลักษณ์ที่ดี เพราะเราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า คนที่ดูดีกว่ามักได้รับโอกาสที่มากกว่า เร็วกว่าและยิ่งใหญ่กว่า ในขณะที่คนฝีมือดีแต่ภาพลักษณ์ไม่เข้าท่ามักจะถูกเก็บไว้เป็นตัวเลือกท้ายๆ เสมอ ที่น่าสนใจก็คือทั้งสองอย่างสามารถพัฒนาให้ทัดเทียมกันได้หมด และภาพลักษณ์ก็ใช้เวลาในการพัฒนาน้อยกว่าทักษะความสามารถหลายเท่า ดังนั้นทางเลือกที่ดีจึงเป็นการเริ่มที่ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ก่อนอย่างอื่น

การ ศัลยกรรม ในผู้ชาย อาจไม่หลากหลายเท่ากับผู้หญิง แต่ก็มีนวัตกรรมที่ล้ำสมัย รวมทั้งรูปแบบวิธีการให้เลือกใช้มากมายไม่แพ้กัน เราสามารถแบ่งความต้องการของผู้ชายออกเป็นช่วงวัยได้อย่างชัดเจน คือ วัยทำงาน วัยกลางคน และวัยสูงอายุ แต่ละช่วงจะมีปัญหาที่ต้องแก้ไขคล้ายคลึงกัน ซึ่งต่างกับผู้หญิงอย่างสิ้นเชิง เพราะผู้หญิงจะมองเจาะในรายละเอียดเป็นส่วนๆ ไปไม่เกี่ยวกับช่วงวัยเท่าไรนัก ถ้ามีตาเล็กเกินไปก็ไปศัลยกรรมตา เมื่อมีกระแสปากอวบอิ่มก็เลือกที่จะปรับแก้ริมฝีปาก เป็นต้น พูดง่ายๆ ว่าการ ศัลยกรรม ในผู้ชาย มีรูปแบบที่ค่อนข้างคงที่กว่าก็ย่อมได้ ทีนี้เราลองมาดูกันดีกว่าว่าผู้ชายแต่ละช่วงวัยเขานิยมทำศัลยกรรมอะไรกันบ้าง

เริ่มจาก เรามาส่องเทรนศัลยกรรมผู้ชายกันก่อนเลยค่ะ
ว่าหนุ่มๆสมัยนี้เค้านิยมผ่าตัดอะไรกันบ้างน้า

มาดูการจัดอันดับศัลยกรรมในผู้ชายกันค่า

อันดับที่ 1 การศัลยกรรมเสริมจมูกในผู้ชาย

อันดับที่ 2 การศัลยกรรมตกแต่งตา 2 ชั้นหรือตาตกในผู้ชาย

อันดับที่ 3 การศัลยกรรมตกแต่งถุงไขมันใต้ตาในผู้ชาย

อันดับที่ 4 การศัลยกรรมตกแต่งเสริมคางในผู้ชาย

อันดับที่ 5 การศัลยกรรมตกแต่งตัดกราม ลดโหนกแก้มในผู้ชาย

ส่วนเรื่องความสนใจเป็นพิเศษคือ

อันดับที่ 1 การศัลยกรรมดูดไขมันหน้าอก และหน้าท้องผู้ชาย

อันดับที่ 2 การศัลยกรรมตกแต่งสะดือผู้ชาย

อันดับที่ 3 การศัลยกรรมตกการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศผู้ชาย

ความต้องการในแก้จุดบกพร่องสุดฮิตได้แก่

อันดับที่1 การปลูกผม แก้ปัญหาศีรษะล้าน

อันดับที่2 กำจัดขน หน้าอก ขนท้องและตามร่างกาย

อันดับที่3 การฉีด Botox (ลดกลิ่นเหงือ และลดริ้วรอย )

ช่วงอายุที่ผู้ชายนิยมทำศัลยกรรมคือ "ช่วงวัยทำงาน"

ระยะนี้จะเป็นช่วงอายุราวๆ 25 ปี ไปจนถึงเกือบ 40 ปี นับตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตการทำงานไป ถื
อเป็นช่วงที่ ผู้ชาย มีความเป็นตัวเองสูงมาก เพราะสามารถเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้แล้ว
เริ่มมีภาวะผู้นำ กล้าคิด กล้าตัดสินใจมากขึ้น ลงมือทำกิจกรรมต่างๆ ที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยว
เล่นกีฬา ผจญภัย ยังคงมีความสุขและสนุกกับการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดความ
ต้องการทำ ศัลยกรรม ก็จะเป็นเรื่องของสังคมเป็นหลัก ช่วงนี้สังคมรอบตัวจะกว้างขึ้น
ได้เจอผู้คนหลากหลาย ความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดีจะช่วยเสริมสร้างมิตรภาพอันดีในช่วงแรกได้
และภาพลักษณ์ที่ดูดีก็ยังช่วยในเรื่องของการยอมรับอีกด้วย

เรื่องที่ 1 ของวันนี้คือ
↬ "การเสริมจมูกผู้ชาย" ↫

เสริมจมูกผู้ชาย และ ผู้หญิง นั้นไม่เหมือนกันนะคะ พื้นฐานแรกของการเสริมจมูกชาย คุณหมอแนะว่า ควรคงลักษณะเด่นของเพศชายไว้ และไม่ควรทำปลายจมูกโด่งมากเกินไป เพราะอาจทำให้ดูแอบสาวเกินไปค่ะ 😀 ทั้งนี้การเสริมจมูกผู้ชายอาจต้องคำนึงถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตและลักษณะโครง สร้างของผิวด้วย "เราต้องคำถึงนึงว่า ผู้ชายไม่ค่อยได้แต่งหน้า ฉะนั้นความโด่งของจมูกผู้ชายต้องกะให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เห็นขอบซิลิโคนที่ใส่เข้าไป ในขณะที่ผู้หญิง หมอจะค่อนข้างเสริมให้โด่งได้มากพอสมควร เพราะสามารถปกปิดรอยซิลิโคนด้วยวิธีการแต่งหน้าได้"

- ความแตกต่างของจมูกผู้ชายและจมูกผู้หญิง

คุณผู้ชายที่มีความคิดว่า เสริมจมูกผู้ชาย กับผู้หญิงไม่ต่างกัน คิดผิดคิดใหม่ซะนะคะ เพราะผู้ชายกับผู้หญิงแตกต่างกันตั้งแต่สรีระทางร่างกายแล้ว เพราะฉะนั้นโครงหน้าของผู้หญิงและผู้ชายก็แตกต่างกันด้วย โดยผู้ชายจะมีลักษณะของจมูกที่ใหญ่กว่า และมักจะมีฮัมพ์ (หรือปุ่มกระดูกที่นูนขึ้นมา) อาจจะต้องตะไบฮัมพ์ออกก่อน มีปลายจมูกที่ใหญ่กว่า และเนื้อจมูกจะแข็งและหนากว่าของผู้หญิง สรุปได้ว่าการ เสริมจมูกผู้ชาย จะต้องอาศัยเทคนิคและประสบการณ์ของคุณหมอที่มากกว่าผู้หญิงค่ะ

- องศาที่เหมาะสมของการ เสริมจมูกผู้ชาย

เพื่อความเป๊ะในการ เสริมจมูกผู้ชาย จะมีอยู่ 2 องศาที่นิยม คือ

มุมองศาจากหน้าผากทำมุมกับจมูก จะมีค่าประมาณ 130 องศา

มุมองศาจากบริเวณปากทำมุมกับปลายจมูก จะมีค่าประมาณ 90 -95 องศา

แต่เพื่อให้ทรงจมูกรับกับรูปหน้าของแต่ละคนให้มากที่สุด

ต้องเลือกคลินิกที่ได้เข้ารับคำปรึกษาและประเมินรูปหน้าจากแพทย์โดยตรงนะคะ

- ทรงจมูกแบบผู้ชายที่เป็นที่นิยมแบ่งเป็นสามแบบ

ทรงที่ 1: ฺBarbies Line แบบผู้ชายก็มีนะคะ แถมเป็นที่นิยมไม่ใช่น้อย เพราะหนุ่มๆที่อยากหน้าหวานเหมือน K-pop เกาหลีมักจะเลือกวิธีนี้ค่ะ จะเน้นลดความใหญ่ของปลายจมูกและเหลาฐานจมูก ทำให้หน้าดูคมแต่ละมุนหวานๆ เวลาถ่ายรูปเอียงข้างแล้วปังมากๆเลยค่ะทรงแบบนี้ แถมเป็นทรงนี่ชวงนี้มีคนไข้รีเควสมากที่สุดด้วยนะคะ มาชมกันค่ะ ว่า รพ.นานะของเรา ทำออกมาแล้วหล่อปังแค่ไหนกันค่ะ

ทรงที่ 2: ทรงตรง แบบแมนๆ ดูคมเข้ม โดยปกติแล้วฐานจมูกเดิมของผู้ชายมักจะเป็นแกนลงมาตรงๆ ทรงนี้จะทำให้ให้สันจมูกดูสูงตั้งแต่ช่วงระหว่างคิ้วลงมา เหมาะกับคนที่มีปลายจมูกหยดน้ำไม่มาก หล่อแบบแมนๆ เหมือนผู้ชายตั้งแต่สมัยดั้งเดิม นักธุรกิจมาดนิ่งๆอาจจะชอบแบบนี้ค่ะ

ทรงที่ 3: ทรงสโลป ปลายหยดน้ำ ทรงนี้สำหรับหนุ่มๆ หน้าหวาน ที่มีเนื้อปลายจมูกเยอะ หรือมีหยดน้ำอยู่แล้ว จะได้ลุคเด็กหนุ่ม สไตล์เกาหลีค่ะ

ศัลยกรรมจมูกแบบ EDGE ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมนานะ

การศัลยกรรมจมูกเป็นการศัลยกรรมที่สร้างความเปลี่ยนแปลง

ให้กับภาพลักษณ์ของผู้ชายได้มากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับผู้หญิงแล้ว

ช่วงกระดูกหน้าผากของผู้ชายจะโหนกกว่าซึ่งเพียงพอที่จะมีดั้งที่สูงขึ้น

มีช่วงแกนจมูกเป็นไลน์เส้นตรง ช่วงปลายจมูกที่ดูแหลมยาว

เป็นการสร้างทรงจมูกแบบ EDGE ที่เพิ่มความมั่นใจและคงภาพลักษณ์ของความเป็นผู้ชาย

ไว้ได้อย่างดีอีกด้วย ช่วงจมูกของผู้ชายที่แตกต่างจากของผู้หญิงคือ ช่วงดั้งที่กว้างกว่า

และผิวที่หนากว่า ที่โรงพยาบาลศัลยกรรม NANA
ด้พิจารณาถึงส่วนนี้และสร้างไลน์จมูกในอุดมคติให้กับคนไข้

เรื่องที่ 2 ศัลยกรรม hot hit นั้น ได้แก่
↬ "ศัลยกรรมตาผู้ชาย" นั่นเองค่า ↫

ที่เป็นลักษณะเฉพาะสำหรับผู้ชาย

เปลือกตาของผู้ชายนั้นแตกต่างจากของผู้หญิง

เพื่อให้ได้ผลลัทธ์ที่เป็นที่น่าพอใจ

ดูไม่หวานจนเกินไป แต่ให้ความเป็นธรรมชาติ

ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยตั้งแต่ความหนาของผิว, ไขมัน ,

กล้ามเนื้อที่เปลือกตา และความสามารถในการลืมตา ประกอบกันในการวินิจฉัยเพื่อการผ่าตัดต่อไป

การศัลยกรรมตาในผู้ชายมาแรงมาก

จนถูกจัดอันดับให้ติดหนึ่งในสามของเทรนด์ศัลยกรรม

มาแรง ตั้งแต่ปี 2017 ถึงปัจจุบันโดยเฉพาะการทำตาสองชั้น

เพราะไม่ใช่แค่สาวๆ เท่านั้นที่สนใจ แต่มีหนุ่มๆ จำนวนไม่น้อย

ก็สนใจไม่แพ้สาวๆ กันเลยทีเดียว

หนุ่มบางคนมีปัญหาตาตี่ บางคนชั้นตาไม่เท่ากัน ตาสองชั้นบ้าง สามชั้นบ้าง หรือสี่ห้าชั้น หลายคนกลัวทำออกมาแล้วหน้าจะหวานเหมือนผู้หญิง ดูไม่แมน ดูไม่เป็นธรรมชาติ ทั้งที่อยากทำมาตั้งนานแล้ว แต่ก็มัวรอๆ รีๆ ไม่มีโอกาสได้ทำเสียที วันนี้เลยมีข้อมูลดีๆ มาฝากเรียกความมั่นใจให้กับหนุ่มๆ ก่อนตัดสินใจทำตาสองชั้นกันเป็นพิเศษเลยค่ะ

การทำตาสองชั้นในผู้ชาย มักจะใช้การทำชั้นตาหลบใน เพื่อให้คงความแมนแบบผู้ชายไว้ค่ะ

1.ทำตาสองชั้นแบบสองชั้นหลบในให้ชั้นตาเล็ก ทำได้ทั้งการทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้นและทำตาสองชั้นแบบกรีดยาวร่วมกับเก็บหนังตาส่วนเกิน

2.ถ้าตาเล็กต้องการให้ตาดูโตขึ้น จะไม่นิยมทำตาสองชั้นให้ชั้นตาใหญ่ขึ้น แต่จะปรับกล้ามเนื้อตาเพื่อเปิดให้ตาโตขึ้น โดยที่ชั้นตายังดูเล็กหลบในอยู่ วิธีนี้จะช่วยตาโตขึ้น ดูธรรมชาติ ดูไม่เหมือนกับศัลยกรรมมา

3.รอยแผลทำตาสองชั้นไม่ควรยาวเกินความจำเป็น เพราะผู้ชายไม่สามารถแต่งหน้าเพื่อบดบังรอยแผลแบบผู้หญิงได้

4.ถ้าหนังตาตกมาก ควรจะใช้วิธีกรีดยาวและเก็บหนังตาส่วนเกินด้วย โดยทำชั้นเล็ก เพราะถ้าไม่ตัดหนังตาออก ต้องเย็บชั้นตาสูง จะทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ

ไม่มีวิธีไหนที่เหมาะกับผู้ชายทุกคน ขึ้นอยู่กับโครงสร้าง ผิวหนังเปลือกตาและองค์ประกอบอื่นๆ สำคัญที่สุดคือต้องเป็นธรรมชาติ มีแผลน้อยที่สุด

เท่านี้หนุ่มๆ ก็สามารถทำศัลยกรรมตาได้ดูเป็นธรรมชาติ ดูแมน หน้าไม่หวานแบบผู้หญิงแล้วล่ะค่ะ

เรื่องที่ 3 ศัลยกรรมที่ขาดไปไม่ได้
สำหรับคนที่ต้องการจะหล่อเป๊ะทุกองศา
↬ ก็คือ"ศัลยกรรมโครงหน้า" นั่นเอง ↫

เราแบ่งโครงหน้าผู้ชายออกเป็น 4 แบบค่ะ

1. หน้าวงรี

ความยาวของหน้าจากบนลงล่างจะยาวกว่าความกว้างของโหนกแก้ม โดยหน้าผากจะกว้างกว่าขากรรไกร และคางจะมีลักษณะโค้งมากกว่าเหลี่ยม และ หน้าแบบนี้มีความผสมระหว่างหน้าแบบกลมและเหลี่ยมในสัดส่วนที่พอดี
2. หน้าเหลี่ยมฝ

โครงหน้าทรงนี้ในทุกๆ ด้านของหน้าคุณจะมีลักษณะใกล้เคียงกัน คางจะมีทรงเหลี่ยมมากกว่าทรงโค้ง

3. หน้าแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า

ความยาวของหน้าจะเป็นส่วนที่ยาวที่สุด ส่วนหน้าผากโหนกแก้ม และกรามจะยาวพอๆกันคล้ายๆกับโครงหน้าแบบเหลี่ยมแต่ความยาวของหน้าจะยาวกกว่านั่นเอง

💓ความแตกต่างของรูปหน้าระหว่างชายและหญิง💓

รูปหน้าที่ไม่สมส่วน เช่น ใหญ่หรือเหลี่ยมเกินไปจะทำให้ทุกคนดูดุ ดูแก่กว่าวัย ดูเหมือนคนหน้าบึ้งตึง ไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็ไม่ต่างกัน และเวลาถ่ายรูปก็จะต้องหามุมที่ดีได้แค่บางมุม ทุกคนอยากถ่ายรูปแล้วสวยหล่อปังทุกมุม ดังนั้นรูปทรงหน้าที่เป๊ะปัง ทำให้ทุกคนมั่นใจมากขึ้นแน่นอนค่ะ

ผู้หญิงอาจจะต้องการหน้า V-shape, U-shape ตามความชอบของแต่ละคน แต่ถ้าผู้ชาย ใบหน้าต้องมีมุมเหลี่ยมเล็กน้อยเพื่อให้ดูแมน เท่ และไม่คล้ายผู้หญิง ดังนั้นศัลยกรรมโครงหน้าของชายและหญิงจึงทำในรูปแบบที่ต่างกันชัดเจน เพราะนอกจากกระดูกแล้ว ต้องดูเรื่องไขมันบนหน้า กล้ามเนื้อ ความสูงของหน้าผาก และความยาวของจมูกควบคู่ด้วย จึงจะออกแบบรูปทรงใบหน้าในการผ่าตัดให้เหมาะสมและดูหล่อเท่ที่สุด อย่างไรก็ตาม คุณหมอจะพูดคุยกะคำนึงถึง ความปลอดภัยที่มาคู่กับความต้องการของคนไข้เป็นหลัก ว่าคนไข้ชอบรูปหน้าแบบใด และตำแหน่งของเส้นประสาทนั้น จะบอกได้ว่าสามารถปรับได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ออกมาดูหล่อบนพื้นฐานของความปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียง

โครงหน้าประกอบไปด้วย 3 ส่วน คือ โหนก กราม และคาง

จะทำส่วนใดบ้างนั้น ขึ้นกับรูปหน้าของแต่ละคนค่ะ
ไม่จำเป็นต้องทำครบทุกส่วน

พอใบหน้าสัดส่วนสมส่วน จมูกสวยเป็นสัน ตาสดใส

แค่นี้ก็ทำให้ผู้ชายทุกคนหล่อได้แบบสุดๆแล้วนะคะ

การทำศัลยกรรมโดยการเหลากระดูกตั้งแต่บริเวณกรามมาจนถึงคางด้านหน้า นอกจากเหลากระดูกแล้ว หากเป็นคนที่มีกล้ามเนื้อบริเวณกรามเยอะ ก็จะต้องทำการลดกล้ามเนื้อ หรือถ้ามีผิวหย่อนคล้อย ก็จะต้องทำการยกกระชับผิวควบคู่กันไปด้วย

นอกจากกราม คางและ ยังมีส่วนที่มักเป็นปัญหาโครงหน้าคือ บริเวณโหนกแก้ม หากเป็นคนที่โหนกแก้มใหญ่จะทำให้ใบหน้าดูดุ และดูแก่กว่าวัย ยิ่งถ้าไม่มีเนื้อแก้มด้วยแล้ว ก็จะยิ่งทำให้มองเห็นโหนกแก้มชัดเจนเข้าไปใหญ่ ตรงนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดลดโหนกแก้มนั่นเอง

เมื่อผ่าตัดเหลากราม คางแล้ว จะยิ่งทำให้โหนกแก้มดูใหญ่ขึ้น คนทั่วไปจึงมักจะผ่าตัดลดโหนกแก้มควบคู่กันไปทีเดียว เพื่อให้ใบหน้าโดยรวมออกมาได้สัดส่วนและเป็นธรรมชาติ

⇏ การทำศัลยกรรมโครงหน้าแบ่งเป็นกี่ประเภท ⇍ 1. ศัลยกรรมผ่าตัดลดโหนกแก้ม ศัลยกรรมลดโหนกแก้มคือศัลยกรรมที่ลดโหนกแก้มที่กว้าง สูง ใหญ่เกินสัดส่วนของใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูแข็ง ดุ ไม่ละมุน และดูสูงอายุกว่าความเป็นจริง วิธีการผ่าที่ดีที่สุดคือการผ่าตัดจากภายในช่องปาก ร่วมกับการเปิดแผลบริเวณข้างไรผมด้านหน้าหู เป็นแผลเล็กๆแค่ 1-2 cm หลังจากหายแล้วจะไม่เหลือแผลเป็นเลยค่ะ เพราะแผลเล็กมากๆ สาเหตุที่ต้องเปิดแผลทั้งสองจุดเนื่องจากว่า นอกจากแพทย์จะตัดกระดูกให้บางลงเพื่อลดความกว้างของกระดูกด้านข้างแล้ว ยังทำการดันกระดูกโหนกแก้มเข้าด้านในประมาณ 45องศา และการผ่าตัดเลื่อนโหนกแก้มใช้การยึดน๊อตไททาเนียม (อยู่ในร่างกายเราได้ตลอดชีวิตอย่างปลอดภัย) วิธีที่ดีสุดคือการยึดน็อตทั้งสองจุดคือด้านหน้าและด้านข้าง ดังนั้นการผ่าในช่องปากจะใช้ในการยึดน็อตด้านหน้าและการผ่าข้างไรผมจะใช้ในการยึดน็อตด้านข้าง เพราะจุดที่กรีดผ่าควรใกล้กับจุดที่ต้องการผ่าตัดมากที่สุดเพื่อลดอาการบวมช้ำและแผลภายใน ซึ่งการผ่าตัดลักษณะนี้จะทำให้เกิดการยึดของกระดูกที่แข็งแรง และเนื้อเยื่อบวมน้อย ช้ำน้อย และฟื้นตัวไว

การตัดกระดูกสำหรับการเลื่อนโหนกแก้ม

การตัดโหนกแก้ม ข้อควรระวังคือต้องทำให้ใบหน้ามีมิติสวยงาม ไม่แบนราบ การตัดแบบ 45 องศาเพื่อเพิ่มมิติในด้านหน้า ให้คนไข้สวยสมบูรณ์แบบทุกมุมมอง เพราะใบหน้าที่ดูดีที่สุด คือใบหน้าจะต้องเรียวและมีเส้นโค้งหรือความโหนกนูนของใบหน้าเมื่อมองจากด้านหน้า สำหรับกรามของผู้ชาย ต้องดูมีมุมตรงกรามเพื่อความดูแมนและไม่คล้ายผู้หญิงค่ะ ปลายคางด้านหน้า ต้องเป็นมุมป้าน ไม่แหลมเหมือนของผู้หญิง ดังนั้นสิ่งสำคัญในการปรับโครงหน้าของผู้ชายคือ การทำมุมบริเวณกราม และคางให้เหมาะสม ดูมีเสน่ห์นั่นเอง 2. ศัลยกรรมตัดกราม ศัลยกรรมเพื่อให้ใบหน้าส่วนล่างมีการเปลี่ยนแปลงรูปทรงและสมส่วนให้เหมาะกับใบหน้าผู้ชาย ซึ่งความใหญ่ของกรามนั้นจะประกอบด้วยสองอย่างคือกระดูกกรามที่ใหญ่และยื่นออกด้านข้าง และกล้ามเนื้อกรามที่หนา ดังนั้นการทำศัลยกรรมสามารถทำได้ทั้งการเหลากระดูกกรามให้บางลงสวยงามและการลดกล้ามเนื้อกรามควบคู่กันค่ะ เมื่อทำทั้งสองอย่างนี้ จะทำให้ใบหน้าเข้ารูปเล็กแต่มีมุมสวยงามพอดี

⇨ ทำไมต้องเลือกผ่าตัดโครงหน้าที่ NANA Hospital ⇦

1. เป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมที่มีขนาดใหญ่ 7 ชั้น

2. มีศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการ 15 ท่าน และมีห้องผ่าตัดใหญ่ 15 ห้อง

3. มีวิสัญญีแพทย์ประจำตลอด 1 ต่อ 1 เพื่อความปลอดภัยของคนไข้ทุกคน

4. เป็นศูนย์การผ่าตัดขนาดใหญ่ มีห้องพักฟื้น ลดบวม ผ่าตัด ปรึกษา ศูนยผิว ครบวงจร

5. มีระบบสำรองไฟฉุกเฉินและมีระบบความปลอดภัยระดับโรงพยาบาลมหาวิทยาลับ

6. มีกล้องวงจรปิดในห้องผ่าตัด พิสูจน์ได้ว่าไม่มีการสลับแพทย์อย่างแน่นอน

7. ทาง รพ. มีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดโครงหน้าหลายท่าน ซึ่งชำนาญการด้านโครงหน้าเป็นพิเศษ จึงทำให้คนไข้ไม่เจ็บหลังผ่าตัด บวมน้อย ไม่ช้ำ และฟื้นตัวไว

8. ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงหน้าของ รพ.นานะ ทำให้คนไข้ไม่เจ็บเหมือนการผ่าตัดทั่วไป พักฟื้นเพียง 1-2 วันคนไข้สามารถออกไปทำกิจวัตรต่างๆได้

8. ศัลยกรรมโครงหน้าของรพ.นานะ มีการตัดกระดูก การเลื่อนกระดูก แบบสวยสมบูรณ์แบบ เป็นลายเส้นโค้งสวยงามตั้งแต่กรามถึงคาง เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของคุณหมอของเราค่ะ

การปรับรูปหน้าผู้ชาย หากเป็นคนที่ใบหน้ามีกล้ามเนื้อและไขมันน้อยอยู่แล้ว ก็สามารถทำแค่เหลากระดูกอย่างเดียว ก็เห็นผลได้ชัดเจนแล้ว หรือจะทำการฉีดไขมันเพิ่มเพื่อให้ใบหน้า ดูเติมเต็มมากขึ้นได้ แต่หากเป็นคนที่มีไขมันหรือ กล้ามเนื้อเยอะ ก็จะต้องทำการดูดไขมันแก้ม หรือลดกล้ามเนื้อควบคู่กันไปด้วย จึงจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ