นานะ เรียลรีวิว : รีวิวเคสลูกค้าไทยกรีดดึงหน้าตึงสุดว้าว กลับมาสดใสหน้าเด็กอีกครั้ง!

ตุลาคม 28, 2564

นานะ เรียลรีวิว : รีวิวเคสลูกค้าไทยกรีดดึงหน้าตึงสุดว้าว กลับมาสดใสหน้าเด็กอีกครั้ง!

สวัสดีค่ะทุกคนนนน~~

วันนี้นานะมาพร้อมกับเคสรีวิวศัลยกรรมแบบพิเศษ
เป็นเคสของลูกค้าคนไทยที่บอกเลยว่าเห็นแล้วต้องว้าวววว!

เพราะหน้าเปลี่ยนแบบกลับไปหน้าเด็กจริงและสวยสุดๆ ด้วย

ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว ไปลุยกันเลยยยย~!

รายการศัลยกรรม

ดึงหน้าแบบกรีด

ฉีดไขมันหน้าเด็ก + PRP หน้าใส

เคสของคนไข้เราวันนี้เรียกได้ว่าเข้ามาปรึกษาเพื่ออยากให้หน้าดูเด็กขึ้นจริงๆ ค่ะ

เนื่องจากพออายุมากขึ้น ความหย่อนคล้อยบนใบหน้าก็มากขึ้นตามไปด้วย
จนในที่สุดพอเห็นรีวิวจากโรงพยาบาลก็เลยตัดสินใจมาลองปรึกษากับคุณหมอดู

ขั้นตอนก็สบายๆ เลยเพราะทางโรงพยาบาลจัดให้ทุกอย่าง
ตั้งแต่พาไปถ่ายรูป ล้างหน้า และอธิบายขั้นตอนเบื้องต้นเกี่ยวกับการผ่าตัด
ทำให้รู้สึกว่าสบายใจขึ้นและไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด

และคุณหมอที่ลูกค้ารีเควสมาในครั้งนี้แน่นอนว่าเป็นถึงหัวหน้าศัลยแพทย์
ของโรงพยาบาลนานะและทำการผ่าตัดเคสใหญ่ๆ ให้กับดาราไทยหลายท่านเลยทีเดียว

คุณหมอ คิมฮยองจุน นั่นเองค่ะ

หลังจากปรึกษาเรียบร้อยก็พบว่าคนไข้มีความกังวลเรื่องผิวหน้าที่หย่อนคล้อย
และตกลงมาทั้งร่องแก้มและกรอบหน้า เลยคิดว่าอยากจะผ่าตัดไปเลย
น่าจะเห็นผลที่สุด และคุณหมอท่านก็เห็นด้วย เลยจัดการผ่าวันนั้นกันไปเลย

คุณหมอจัดการดีไซน์บนใบหน้าก่อนผ่าตัดพร้อมอธิบายว่าการดึงกรอบหน้าแบบนั้น
ทางเราจะกรีดลงมาตรงแถบไรผมเหนือใบหูยาวไปจนถึงหลังหู
เพื่อเก็บกรอบหน้าทั้งหมดตั้งแต่แก้มจนถึงกรอบหน้า

รอยแผลเป็นจะถูกซ่อนไว้ที่ไรผมและหลังหูซึ่งจะค่อยจางลงไป
หลัง 3 เดือน ถ้าพยายามทายาลดรอยแผลเป็นก็มีโอกาสที่จะหายเร็วขึ้น

และแนะนำให้ฉีดไขมันกับ PRP เพื่อให้หน้าดูเด็กขึ้นไปอีก

หลังจากคุยกับคุณหมอเรียบร้อยก็เตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัดได้

โดยการผ่าตัดนี้ใช้เวลา 3 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ

สู้สู้~~!! ✌

หลังจากผ่าตัดก็ออกมาประมาณนี้เลย
แรกๆ จะรู้สึกตึงๆ หน่อยแล้วก็มีปวดบ้างเล็กน้อย เนื่องจากการดึงหน้า
จำเป็นต้องทำให้ตึงเท่าที่จะทำได้เลยอาจขยับสีหน้าลำบากหน่อยในช่วงอาทิตย์แรก

วันที่ 2 คนไข้กลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง
เพื่อให้คุณหมอและพยาบาลล้างแผลที่ถูกสำลีและผ้าพันไว้เพื่อป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้อ
จากนั้นก็ปิดกลับไปแบบเดิม

วันที่ 2-3 จะบวมมากหน่อยค่ะ คนไข้บอกว่ามันบวมขึ้นมาจนปิดตาเลยทีเดียว
ทำให้อาจจะมองอะไรลำบากเล็กน้อย และความช้ำเขียวเริ่มขึ้นมาแล้ว

และแล้วก็กลับมาเจอกันอีกทีตอนครบ 7 วันพอดีค่ะ
วันนี้คุณหมอให้เอาผ้าที่รัดหน้าออกได้แล้วพร้อมกับตัดไหมให้ด้วยทั้ง 2 ข้าง
จากนี้แนะนำว่าให้ทายาลดรอยแผลเป็นบ่อยๆ
และรอไปอีกสัก 1 สัปดาห์ค่อยโดนน้ำจะดีกว่า

ช่วงนี้คนไข้จะรู้สึกตึงหน้ามากๆ อาจจะตึงจนเมื่อยหน้าก็เป็นไปได้
อาจจะรู้สึกรำคาญแต่ถือว่าดีเลยค่ะ เพราะพอหน้าเข้าที่เมื่อไรจะลงตัวเลย

ระหว่างนี้สิ่งที่ต้องระมัดระวังเลยก็คืออย่าเพิ่งอ้าปากกว้างๆ
หรือขยับสีหน้ากว้างๆ จนเกินไป เวลานอนอยากให้นอนหน้าตรงเพื่อไม่ให้แผลอักเสบ
งดบุหรี่ แอลกอฮอล์ และการออกกำลังกายไปก่อน
ส่วนอาหารจริงๆ ทานปกติได้ค่ะ แต่ถ้าอยากให้รอยบวมช้ำหายเร็วขึ้น
แนะนำงดของเค็ม ของเผ็ด ของดองจะดีที่สุด

และแล้ววันนี้ที่รอคอยก็มาถึง

เรามาดูผลลัพธ์หลังจากครบ 1 เดือนกันว่าจะเป็นยังไงบ้าง

ดูด้านข้างกันบ้าง

จะเห็นว่าหน้าหายบวมไปเยอะเลยค่ะ
วันนี้คนไข้มาพบคุณหมออีกครั้งเพื่อตรวจเช็คผลลัพธ์และพูดคุยว่ามีอาการแปลกๆ อะไรหรือไม่

คนไข้บอกว่าช่วงแรกรู้สึกตึงมากๆ จนคิดว่ามันตึงผิดปกติไปหรือเปล่า
แต่จริงๆ แล้วหลังจากผ่าตัดไม่ถึงเดือนจะรู้สึกตึงมากเป็นพิเศษเท่านั้น
พอค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นอาการก็จะค่อยๆ หายไปเองค่ะ